วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553

7 ELEVEN ร้านสะดวกซื้อเบอร์หนึ่งที่ยังไร้คู่แข่ง


กล้าพูดได้เต็มปากว่าจนถึงวันนี้เมื่อพูดถึงธุรกิจคอนวีเนียนสโตร์ที่ประสบความสำเร็จ ในไทย ไม่มีใครมองข้ามชื่อ “เซเว่นอีเลฟเว่น”อย่างแน่นอน เซเว่นอีเฟลเว่น ที่กลายเป็นปรากฎการณ์หน้าหนี่งของธุรกิจค้าปลีกไทย ที่ตั้งแต่ลูกเล็กเด็กแดง ไปจนคนเฒ่าคนแก่ ไม่มีใครไม่รู้จักร้านค้าปลีกที่เปิดขายตลอด24 ชั่วโมงที่มีอยู่ทุกมุมเมือง ซึ่งมีสาขาปัจจุบันรวมกันถึง3000 สาขาและมีเป้าหมายในการขยายสาขาอีกปีละ 300 สาขา


แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า กว่าจะเป็น ..กว่าจะถึงซึ่งความสำเร็จในวันนี้ มีที่มาอย่างไร

แท้จริงแล้ว “เซเว่นอีเลฟเว่น” เป็นธุรกิจแฟรนไชส์สัญชาติอเมริกัน ซึ่งเริ่มต้นธุรกิจในเมืองดัลลัส มลรัฐเท็กซัส มาตั้งแต่ปีพ.ศ.2470 ในชื่อ บริษัท เซาท์แลนด์ ไอซ์(เซาแลนด์ คอร์ปอเรชั่น) ก่อนหน้าที่จะดำเนินธุรกิจค้าปลีก บริษัทแห่งนี้เริ่มต้นจากธุรกิจเล็กๆที่จำหน่ายน้ำแข็งในพ.ศ.2470 ก่อนที่จะขยายกิจการโดยนำสินค้าอุปโภคบริโภค ประเภท นม ขนมปังและไข่ เข้ามาจำหน่ายในร้านด้วย โดยเปลี่ยนชื่อร้านเป็น โทเท็ม สโตร์ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานยักษ์ใหญ่แห่งวงการค้าปลีกอย่างแท้จริง


เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตของผู้คนในทุกพื้นที่ทั่วโลกจาก โทเท็ม สโตร์ ในปี2489 ร้านจำหน่ายของอุปโภคบริโภคแห่งนี้ก็เปลี่ยนชื่อมาเป็น เซเว่นอีเลฟเว่น เป็น เซเว่นอีเฟลเว่นเดียวกับที่เรารู้จักและคุ้นเคยกันในปัจจุบัน อะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้ต้องเปลี่ยนชื่อร้าน


“จริงๆแล้วเซเว่นอีเลฟเว่นสื่อความหมายถึงเวลาปิดเปิดในขณะนั้น ที่สื่อความหมายถึงเวลาปิด-เปิด คือ 7.00am-11.00pmทุกวันตลอดสัปดาห์ และจนกลายเป็นที่ติดปากและใช้มาจนปัจจุบันทั้งๆที่ร้านได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่องและกลายเป็นร้านค้าที่เปิดให้บริการถึง24 ชั่วโมงต่อวันแต่ก็ยังคงใช้ชื่อนี้อยู่”


หากจะพูดถึงเอกลักษณ์และความเป็นตัวตนที่ทำให้ “เซเว่นอีเฟเว่น” ได้รับความนิยม ที่โดเด่นที่สุดน่าจะเป็นการเปิดให้24 ชั่วโมงที่ทำให้ ร้านสะดวกซื้อรายนี้ แตกต่างและโดดเด่นเหนือคู่แข่งอื่นๆในขณะนั้น และกลายเป็นเอกลักษณ์สำคัญที่เหมือนๆกันทั้ง24,000สาขาทั่วโลก และกลายเป็นสัญลักษณ์และความเฉพาะตัวของร้านสะดวกซื้อที่มีมาตรฐานทั้งในเรื่องสินค้า บริการและอาหาร ที่สอดคล้องและตรงตามความต้องการของวิถีชีวิตผู้บริโภค เช่นเดียวกับในไทยที่หลังจาก “เครือเจริญโภคภัณท์” ได้เริ่มต้นตำนานเซเว่นอีเลฟเว่นในประเทศไทย เป็นครั้งแรกในปี2532 เมื่อเปิดร้านเซเว่นอีเลฟเว่นสาขาแรกของประเทศไทยบนถนนพัฒนพงศ์ กรุงเทพ เมื่อวันที่1 มิถุนายน2532 ภายหลังจากเซ็นสัญญาซื้อสิทธิประกอบกิจการค้าปลีกมาจากบริษัทเซาแลนด์คอร์เปอเรชั่นหรือ เซเว่นอิงค์ในปัจจุบัน


กว่า 17 ปี เซเว่นอีเลฟเว่นในไทยได้ขยายสาขาแบบก้าวกระโดดไปสู่ทั่วทุกชุมชนในประเทศไทย โดยมีรูปแบบการลงทุนทั้งในรูปแบบ บริษัทลงทุนเองและการขยายการลงทุนด้วย ระบบแฟรนไชส์โดยการลงทุนอย่างหลังบริษัทจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจอย่างใกล้ชิดภายใต้ระบบการบริหารที่ทันสมัย

ด้วยความสำเร็จอาจจะทำให้คนจำนวนมากเข้าใจว่าการลงทุนในธุรกิจนี้ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล แต่ในความเป็นจริงการลงทุนของ เซเว่นอีเฟเว่น นั้นใช่เงินลงทุนไม่มากนักเมื่อเทียบกับแฟรนไชส์แบรนด์ดังอื่นๆ


รูปแบบของแฟรนไชส์ที่ผู้สนใจสามารถลงทุนแบ่งออกเป็น TYPE B และTYPE C โดย TYPE B ใช้เงินลงทุนน้อยกว่า เพียง1.5ล้านบาทโดยเสียค่าสิทธิแรกเข้า ค่าดำเนินการโอนร้าน และค่าดำเนินการอื่นๆรวม 500,000บาท และเงินสดค้ำประกันซึ่งจะได้รับคืนพร้อมดอกเบี้ย จำนวน1 ล้านบาท และTYPE C ใช้เงินลงทุนรวม 2,400,000บาท ค่าสิทธิแรกเข้า ค่าสิทธิในการบริหารร้านและค่าดำเนินการอื่นๆรวม1.5ล้านบาทและเงินสดค้ำประกันอีก900,000บาท สำหรับผลตอบแทนนั้นจะแตกต่างกันตรงที่ ประเภทแรก แฟรนไชส์ซีจะได้

ผลตอบแทนจากการบริหารร้าน รายได้จากผลกำไรของงานในร้านและหากสามารถเพิ่มผลกำไรจากที่บริษัทเป้าที่บริษัทเคยทำไว้จะได้รับเงินพิเศษเพิ่มขึ้น ขณะที่ประเภทที่2 จะได้รับผลตอบแทนจากกำไร ในสัดส่วนระหว่างแฟรนไชส์ซีกับบริษัทในสัดส่วน54%และ46% อย่างไรก็ตามความน่าสนใจของ “เซเว่นอีเลฟเว่น”ไม่ได้อยู่แต่เพียงการลงทุนที่ไม่สูงนัก ทิศทางการขยายงานและก้าวต่อไปยังน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยมีความพยายามในการปรับและพัฒนารูปแบบร้านสะดวกซื้อในแบบฉบับเซ่เว่นฯ ให้สามารถสนองตอบไลฟสไตล์คนได้มากขึ้น โดยขยายพื้นที่รูปแบบร้านเดิมที่มีอยู่ออกไปทั้งในส่วนของร้านหนังสือ และเบเกอรี่


ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ปรากฎให้เห็นในหลายสาขามีร้านหนังสือ Book Smile ที่อยู่ติดกับร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งเป็นอีกธุรกิจ ที่สามารถต่อเชื่อมการลงทุนเข้าด้วยกันได้ นอกจากนี้แผนในอนาคตเตรียมต่อเชื่อมห้องที่ 3 สำหรับธุรกิจเบเกอรี่เต็มรูปแบบ หลังได้วางสินค้าชิมลางยอดขายในร้านสาขาสร้างรายได้อย่างดีมาแล้ว จากแนวทางการขยายธุรกิจดังกล่าว มาจากการสำรวจพฤติกรรม โดยเฉพาะคนเมือง พบว่าสินค้าที่เป็นที่ต้องการในร้านสะดวกซื้อคืออาหาร เบเกอรี่และหนังสือ และนี่เป็นกรณีศึกษาของธุรกิจแฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อที่ใหญ่ที่สุดในห้วงเวลานี้และเชื่อเหลือเกินว่า เซเว่นอีเลฟเว่น ก็ยังจะคงความเป็นเบอร์หนึ่ง ที่ยังไร้คู่แข่งอยู่ต่อไปอีกนานแสนนาน


เงื่อนไขการลงทุนเปิดร้านเซเว่นอีเลฟเว่น

แฟรนไชส์ TYPE B

ส่วนที่ 1

- ค่าสิทธิแรกเข้า 350,000 บาท

- ค่าดำเนินการโอนร้าน 100,000 บาท

- ค่าดำเนินการอื่น ๆ 50,000 บาท

รวม 500,000 บาท

ส่วนที่ 2

- เงินสดค้ำประกัน 1,000,000 บาท

ได้รับคืนพร้อมดอกเบี้ย (ตามอัจราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารกรุงเทพ จำกัด ณ วันที่ 1 ม.ค. ทุกปี)

รวมเงินลงทุน 1,500,000 บาท



แฟรนไชส์ TYPE C

ส่วนที่ 1

- ค่าสิทธิแรกเข้า 500,000 บาท

- ค่าดำเนินการโอนร้าน 900,000 บาท

- ค่าดำเนินการอื่น ๆ 100,000 บาท

รวม 1,500,000 บาท

ส่วนที่ 2

- เงินสดค้ำประกัน 900,000 บาท

ได้รับคืนพร้อมดอกเบี้ย (ตามอัจราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารกรุงเทพ จำกัด ณ วันที่ 1 ม.ค. ทุกปี)

รวมเงินลงทุน 2,400,000 บาท


อ้างอิงจาก: Franchise Vision เรื่องโดย: กองบรรณาธิการ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น