วันศุกร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2554

การตัดสินใจเกี่ยวกับซอฟแวร์โปรแกรมเพื่อการบริหารจัดการ (Business Management Software)


หลายธุรกิจมักมีปัญหาว่า หากจะนำซอฟแวร์โปรแกรมสำเร็จรูปมาใช้กับกิจการ ควรจะซื้อแบบสำเร็จรูป หรือ จ้างนักพัฒนาซอฟแวร์ทำให้ อย่างไหนจะดีกว่ากัน ?

จากประสบการณ์ตรงในเรื่องนี้ ผมแนะนำได้ว่า มีดีมีเสียคนละอย่าง ขึ้นอยู่กับประเภทกิจการครับ การจ้างนักพัฒนาซอฟแวร์ หรือ โปรแกรมเมอร์ทำให้นั้น เหมาะสำหรับบริษัทขนาดกลางถึงหนาดใหญ่ ที่มีระบบการทำงานเฉพาะ และ มีความสลับซับซ้อนสูง เป็นระบบแล้ว มีเครื่อง Server ต่อกับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์พร้อม แต่ไม่สามารถหาซอฟแวร์โปรแกรมสำเร็จรูปที่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบที่จะนำมาใช้กับงานในทุกกลุ่มได้ หรือหากนำมาใช้ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงการทำงานกันขนานใหญ่ จนอาจก่อปัญหาใหญ่ให้กับการทำงานตามปกติได้ ถ้าเป็นแบบนี้ การจ้างโปรแกรมเมอร์มาเป็นพนักงานบริษัทเพื่อภารกิจพัฒนาซอฟแวร์เพื่อให้เหมาะกับองค์กรของตนโดยเฉพาะ จะดี

ถ้าหากเป็นบริษัทขนาดกลางการทำงานไม่ซับซ้อนเท่าบริษัทขนาดใหญ่ หากไม่ต้องการจ้างโปรแกรมเมอร์ประจำ ก็อาจว่าจ้างซอฟแวร์เฮาส์ (Software House) ที่เชื่อถือได้มาทำการพัฒนาโปรแกรมให้ ซึ่งจะดีหรือไม่ก็จะขึ้นอยู่กับความรู้ ประสบการณ์ และ ความเป็นมืออาชีพของบริษัทซอฟแวร์เฮาส์ ที่ถูกว่าจ้างมา รวมถึงเงื่อนไขข้อตกลงในสัญญาการพัฒนาโปรแกรม

สำหรับธุรกิจ SMEs ผมแนะนำว่าให้ซื้อโปรแกรมสำเร็จรูปที่เหมาะสมมาใช้เลยจะดีกว่า เพราะส่วนใหญ่แล้วธุรกิจขนาดกลางถึงขนาดย่อม ความสลับซับซ้อนของระบบงานยังมีไม่มาก หรือไม่ก็ยังไม่มีระบบที่ดี จึงถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำการพัฒนาซอฟแวร์พร้อมกับปรับระบบงานให้เป็นระบบระเบียบเพื่อรองรับการนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาใช้งาน เพราะการว่าจ้างซอฟแวร์เฮาส์มาพัฒนาโปรแกรมให้ดูจะแพงเกินไป การจ้างโปรแกรมเมอร์ประจำก็เป็นภาระเงินเดือน แต่เมื่องานเสร็จก็ไม่มีงานอะไรให้ทำต่อมากนัก หรือ โปรแกรมเมอร์ลาออกไปกลางคัน งานก็จะสะดุด การเลือกซื้อซอฟแวร์โปรแกรมสำเร็จรูปมาใช้จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

วิธีการเลือกซื้อซอฟแวร์โปรแกรมสำเร็จรูปมาใช้ ควรดูจากฟังก์ชัน หรือ ความสามารถที่ซอฟแวร์ทำได้ว่า สามารถตอบสนองความต้องการของธุรกิจได้ครบถ้วนหรือไม่ก่อน แล้วดูต่อว่ามีฟังก์ชันเพิ่มเติมอื่นๆอะไรบ้างที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ มีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนระบบการทำงานอะไรบ้างเพื่อรองรับการใช้งานโปรแกรมสำเร็จรูป  หรือว่าในทางกลับกัน ระบบงานส่วนใดดีอยู่แล้ว และต้องการให้โปรแกรมสำเร็จรูปถูกปรับแก้เล็กน้อยโดยบริษัทผู้ขายโปรแกรม เพื่อให้เข้ากับระบบงานเฉพาะส่วนที่ดีอยู่แล้วของตนเอง

การขอปรับแก้โปรแกรมสำเร็จรูปเล็กๆน้อยๆนั้น บริษัทผู้ขายมักจะยินดีทำให้ บางแห่งก็ทำให้ฟรีถ้าเล็กน้อยจริงๆ หรือ คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มตามความเหมาะสม ซึ่งก็ถือว่าดี หากเขามีการดูแลในส่วนนี้ อีกทั้งการใช้ซอฟแวร์โปรแกรมสำเร็จรูป เมื่อมีเวอร์ชั่นใหม่ๆ หรือ ฟังก์ชั่นใหม่ๆ ที่ถูกพัฒนาเพิ่มเติมโดยบริษัทผู้ผลิตซอร์ฟแวร์ ก็มักจะมีการอับเกรดให้กับลูกค้าฟรี หรือ จ่ายเพิ่มเล็กน้อย ทำให้เราได้ใช้โปรแกรมที่มีความทันสมัยอยู่เสมอ หากโปรแกรมเมอร์ของเขาลาออกไป เขาก็จะต้องจัดหาคนใหม่ที่ทำงานต่อเนื่องได้มาทดแทน ซึ่งเป็นหน้าที่ของเขา ไม่ใช่ของเรา ทำให้งานเราไม่สะดุด

ดังนั้นสำหรับ SMEs จึงน่าจะเหมาะกับการนำโปรแกรมสำเร็จรูป มาใช้ช่วยงานธุรกิจของตนเอง โดยต้องเลือกให้เป็นว่า จ้าวใดเหมาะสม น่าเชื่อถือ ใช้งานกับธุรกิจของตนเองได้ดี มีการสนับสนุนหลังการขายที่ดี มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องนี้ก็มีรายละเอียดมากพอดูอยู่แล้วครับ



วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554

ความสำคัญการบริการจัดการธุรกิจด้วยระบบข้อมูลเพื่อการบริหาร (Management Information System)

ผู้เขียน : มงคล ตันติสุขุมาล 

      ในการประกอบธุรกิจนั้น ในสมัยก่อน (ประมาณ 15-20 ปีก่อน) คอมพิวเตอร์ยังเพิ่งจะเริ่มต้น และราคายังสูง ทำให้การบริหารธุรกิจ ต้องมีการบันทึกข้อมูลลงในสมุด (Paper work) เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีความยุ่งยากในการสรุปรวบรวมข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ เช่นหากผู้บริหารอยากทราบว่า ปีที่ผ่านมาสินค้าอะไรบ้างที่ขายดี อะไรบ้างที่ขายไม่ดี อะไรบ้างที่ใกล้หมดอายุ ให้ระบุชื่อและจำนวนที่แน่นอน สินค้าที่ขายดีขายดีในช่วงเดือนใดบ้าง ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นใคร ชาย หญิง อายุประมาณใด เป็นเด็กเล็กมากับพ่อแม่ เป็นวัยรุ่น เป็นวัยผู้ใหญ่ หรือวัยชรา อย่างละกี่มากน้อย ปีหน้าควรวางแผนธุรกิจอย่างไร

จะเห็นว่าข้อมูลเหล่านี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้เสร็จได้ในเวลาเพียงวันสองวัน เพื่อนำมาประกอบการบริหารธุรกิจ

แต่ว่าในปัจจุบันนี้ ข้อมูลเหล่านี้ สามารถเรียกดูได้ภายในเดี๋ยวนั้น ณ เวลาที่ผู้บริหารต้องการดูข้อมูล และจะกำหนดช่วงเวลาใดก็ได้ที่ต้องการ จะปีที่แล้ว สองปีที่แล้ว เดือนที่แล้ว สัปดาห์ที่แล้ว หรือ เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ได้ทั้งนั้น ด้วยความช่วยเหลือของระบบข้อมูล IT (Information Technology)เพื่อบริหารจัดการ อีกทั้งราคายังถูกมากด้วยเมื่อเทียบกับการจ้างพนักงานมารื้อค้นข้อมูลเอกสารย้อนหลังด้วยวิธีการดั้งเดิม

แต่ผมกลับพบว่า ธุรกิจ SMEs จำนวนมาก ที่ยังไม่เห็นความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว ไม่ยอมลงทุน แต่กลับต้องสูญเสียเงินทองมากมายกับการจ้างพนักงานมาทำงานซ้ำซ้อนกัน มาจัดระบบแฟ้มกระดาษ อีกทั้งยังต้องหงุดหงิดกับข้อมูลผิดๆถูกๆ ที่พนักงานหามาให้ ทำให้การตัดสินใจทางธุรกิจผิดพลาด อีกทั้งเกิดช่องทางให้พนักงานที่ไม่ซื่อสัตย์สามารถทุจริต ยักยอกเงิน หรือ สินค้า ไปเข้าตนเองได้ง่าย เพราะการตรวจสอบย้อนหลังทำได้ยาก เข้าทำนอง "เสียน้อยเสียยาก...เสียมากเสียง่าย"

อีกสาเหตุหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นสาเหตุที่เจ้าของกิจการจำนวนมาก โดยเฉพาะที่อายุมากว่า 40 ปี ขึ้นไปไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการใช้คอมพิวเตอร์ในการควบคุมบริหารธุรกิจ เพราะหลายท่านไม่มีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ไม่รู้ว่ามันจะช่วยงานได้อย่างไร ใช้ไม่เป็น กลัวเสียเงิน ฯลฯ สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ แล้วก็ทำธุรกิจไปวันๆ โดยการลงบัญชีแบบเดิมๆ ตรวจสอบย้อนหลังยาก นำมาประมาลผลสรุปเป็นกราฟ เพื่อประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจได้ยาก พอมีคู่แข่งเกิดขึ้น ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า ดูข้อมูลได้เร็วกว่า ตัดสินใจได้ถูกต้องกว่า จึงทำให้ธุรกิจ SMEs จำนวนมากต้องพ่ายแพ้ และล้มหายตายจากกันไปจากธุรกิจ

ผมจึงอยากแนะนำ และส่งเสริมให้เจ้าของกิจการ เรียนรู้ถึงประโยชน์ ของการใช้คอมพิวเตอร์มาทำฐานข้อมูลทางธุรกิจ ทุกด้าน เช่น ควบคุมสต๊อก ซื้อขายหน้าร้าน ทำบัญชี ทำประวัติพนักงาน ฯลฯ รวมถึง เรื่องอินเตอร์เน็ต ในการประชาสัมพันธ์ธุรกิจออกไปในวงกว้างด้วยต้นทุนต่ำ 

ท่านไม่ค่อยรู้เรื่อง ไม่เป็นไร อ่านหนังสือ ฟังสัมนา ไปอบรม ทดลองใช้ ทำซ้ำไปซ้ำมาเรื่อยๆ เดี๋ยวเข้าใจและทำเป็นเอง ช้าบ้างเร็วบ้าง แล้วแต่กำลังสติปัญญาและ ความพยายามของแต่ละคน แต่ก็ต้องทำ

เพื่อความรวดเร็ว อาจจัดหาที่ปรึกษาหรือ ผู้ที่มีความรู้ในด้านนี้มาช่วยงาน ช่วยธุรกิจของท่าน ไม่ต้องเสียดายเงินครับ เพราะสิ่งที่ท่านได้รับนั้นจะคุ้มค่ามาก มิฉะนั้น ธุรกิจของท่านอาจถึงกาลอวสาน โดยไม่รู้ตัว เพราะลูกค้าทะยอยหายไปอยู่กับคู่แข่งหมด

แต่ถ้าหากท่านให้ความสำคัญกับข้อมูลเพื่อการบริหารจัดการ จะทำให้ธุรกิจของท่านมีข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ ตัดสินใจทางธุรกิจได้รวดเร็วและถูกต้อง คู่แข่งตามไม่ทัน เงินทองก็จะไหลมาเทมา เงินรั่วไหลน้อยลง กำไรงาม ร่ำรวย นั่นใช่ไหมที่เป็นเป้าหมายทางธุรกิจของท่าน ดังนั้น จงเริ่มเรียนรู้และจัดหา ระบบคอมพิวเตอร์ และ ซอฟแวร์ ด้านการบริหารจัดการ จะทำด้วยต้นเอง หรือ อาจให้ที่ปรึกษามาช่วยวางระบบ และฝึกอบรมคนของท่าน เพื่อให้กิจการท่านรุ่งเรือง ก้าวไกลต่อไปในโลกยุคการแข่งขันไร้พรมแดนอย่างในปัจจุบันนี้