วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

การมาก่อนเวลานัดหมายกับการทำธุรกิจ

ในการประกอบธุรกิจ สิ่งที่มักมีปัญหากับคนไทย คือ การไม่ตรงต่อเวลา ไม่ว่าจะในเรื่องการนัดพบ หรือ เรื่องกำหนดส่งงาน เป็นต้น ทำให้ชาวต่างชาติ หรือ นักธุรกิจมืออาชีพ หลายๆรายเอือมระอากับพฤติกรรมที่ไม่เป็นมืออาชีพของนักธุรกิจมือใหม่ หรือ มือเก่าชาวไทยทั้งหลาย

มีกรณีตัวอย่างที่ผู้รับออกแบบ รับปากจะส่งแบบให้แก่บริษัท แต่กลับเลื่อนกำหนดหลายครั้งด้วยข้ออ้างว่า พนักงานของตนป่วยบ้าง ติดธุระสำคัญบ้าง จึงทำให้งานไม่เสร็จ จนลูกค้าชาวต่างชาติรายนี้หงุดหงิดกับความไม่ตรงต่อเวลา และเตรียมจะยกเลิกสัญญาการว่าจ้าง เมื่อเขามาปรึกษาผม ผมจึงแนะนำให้ลองให้โอกาสผู้รับงานอีกสักครั้ง โดยการนัดพบและให้ผู้รับงานกำหนดวันเสร็จงานเอง รับปาก และ ลงนามกำกับบันทึกการประชุมไว้เอง เพื่อว่าหากเขาไม่สามารถทำเสร็จตามกำหนดเส้นตาย (ครั้งสุดท้าย) นี้ได้ ก็จะได้ดำเนินการด้านการยกเลิกสัญญาจ้างต่อไป

ก็เป็นที่น่าแปลกใจว่า พอถูกบีบด้วยเงื่อนไขนี้ ผู้รับงานกลับทำเสร็จและส่งได้ตามเวลาทุกประการ ทั้งๆที่ล่าช้ามานาน ทำให้ผมมองเห็นว่า นักธุรกิจคนไทย นั้น มีความสามารถ แต่บางคนยังขาดความมีวินัย และความตรงต่อเวลา

ผมเคยนัดพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่งให้มาติดตั้งกล้องวงจรปิด ก็รับนัดกันอย่างดีว่าจะมาในวันพรุ่งนี้เวลา 10 โมงเช้า ผมก็มารอ รอแล้วรอเล่าจน 11 โมง ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะมีใครมา จึงโทรไปสอบถาม ปรากฎว่าเขาไปทำการติดตั้งที่อื่นอยู่ ไม่สามารถมาตามนัดได้ แต่ก็ไม่โทรบอกผมล่วงหน้า ทำให้ผมเสียเวลาไปครึ่งวัน เพื่อจะได้รู้ว่า เขาผิดนัด เหตุการณ์นี้ทำให้ผมสรุปในใจตนเองได้ว่า หลังจากงานนี้ผมจะไม่ใช้บริการของร้านนี้อีกเลย

อีกตัวอย่างหนึ่ง คือ ผมเคยนัดพนักงาน Part Time มาช่วยพิมพ์งาน นัดล่วงหน้าแล้ว 1 สัปดาห์ เมื่อถึงวันนัดหมาย ผมก็มาสำนักงาน เปิดประตู นั่งรอ รออยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง ไม่มีใครมา โทรไปหา ไม่รับสาย จึงฝากข้อความเสียงไว้ อีก 1 ชั่วโมงต่อมา จึงมีโทรศัพท์กลับมาว่า ลืมนัด และ ไปต่างอำเภอมา ทั้งที่วันที่พูดนัดกันผมยังเห็นเขาบันทึกลงในโทรศัพท์มือถือของเขาอยู่เลย ทำให้ผมเสียเวลาไปครึ่งวัน เพราะการไม่ใส่ใจนัดหมายของผู้รับนัดรายนี้ เดิมผมคิดว่าอาจจะว่าจ้างให้เขาทำอย่างอื่นเพิ่มเติม แต่ถึงเวลานี้ผมเปลี่ยนใจแล้ว


หากเราเห็นว่าเวลาของเรามีค่า เวลาของคนอื่นก็มีค่าเช่นเดียวกัน การนัดหมายส่งงานแล้วไม่สามารถทำได้ตามกำหนด ควรมีการแจ้งล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ แต่ตนเองก็ต้องพยายามแก้ไขสถานการณ์ด้วยตนเองอย่างเต็มที่เสียก่อน

เมื่อถึงกำหนดนัดหมายประชุม ก็ควรมาก่อนเวลาเล็กน้อย อย่าให้คนอื่นต้องรอคอย เพราะเวลาของคนอื่นก็มีค่าเช่นกัน  เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะการมาสาย พร้อมข้ออ้าง ทำให้ลูกค้าคาดเดาต่อไปว่า "หากว่าจ้างคนนี้หรือบริษัทนี้ทำงาน เขาก็คงทำให้งานล่าช้าพร้อมยกข้ออ้าง ให้ลูกค้าต้องปวดใจในอนาคตอีกเช่นกัน" คิดแล้วก็อย่าว่าจ้างรายนี้ดีกว่า เป็นต้น ทำให้ท่านอาจสูญเสียโอกาสทางธุรกิจอย่างใหญ่หลวง

ผมจึงอยากเน้นย้ำคำว่า "มาก่อนเวลานัดหมาย" ไม่ใช่ "มาตรงเวลานัดหมาย" เพราะท่านควรเผื่อเรื่องที่คาดไม่ถึงอันทำให้ต้องสาย หรือ ผิดเวลานัด เช่น เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยบนถนนข้างหน้า ทำให้รถติด ใช้เวลาเดินทางเพิ่มขึ้น หรือ เมื่อท่านมาถึงสถานที่นัด อาจปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำสัก 15 นาที หากมาตรงเวลา แต่แวะเข้าห้องน้ำ ก็กลายเป็นพบหน้าลูกค้าสายกว่าเวลานัดเป็นต้น ผมจึงอยากเน้นให้ มาก่อนเวลานัดหมาย ไม่ใช่ กะเวลาให้มาตรงเวลาพอดี โดยไม่เผื่อเรื่องคาดไม่ถึง

หากเกิดเหตุสุดวิสัยกลางทาง ที่ทำให้ท่านแน่ใจว่าไปไม่ทันเวลานัดหมายแน่ๆ ควร รีบโทรไปแจ้งแต่เนิ่นๆ และขอเลื่อนเวลานัดออกไป เพื่อว่าผู้รับนัดจะได้จัดเวลาไปทำอย่างอื่นก่อน ไม่ใช่ปล่อยให้เขานั่งรอ

ในกรณีกลับกัน หากท่านไปยังปลายทางที่นัดพบก่อนเวลา เมื่อถึงเวลานัดหมายแล้ว ผู้รับนัดซึ่งอาจเป็นว่าที่ลูกค้ายังไม่มา ท่านก็ควรโทรไปแจ้งให้เขาทราบว่า ขณะนี้ท่านได้มาถึงที่นัดหมายเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เขารับทราบ เขาจะได้รับรู้ว่าท่านมาตรงเวลา และ หากเขาติดงานสำคัญจึงมาสาย ท่านก็จะได้รู้และหากิจกรรมอื่นทำไปก่อนระหว่างรอ ไม่รู้สึกหงุดหงิด เพราะความหงุดหงิด มักเกิดจากการรอคอยโดยไร้จุดหมาย ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่การรอคอยจะสิ้นสุดลง จะไปทำอย่างอื่นก่อนก็ไม่ได้ หากเกิดผู้รับนัดมาจะไม่พบ  เมื่อหงุดหงิดมากขึ้น พอพบกัน การคุยธุรกิจด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวก็มักไม่ราบรื่น และอาจสูญเสียธุรกิจไปได้

การจัดการกับการนัดหมายอย่างเหมาะสม จึงเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจเช่นกัน เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องกับธุรกิจของท่านรู้สึกได้ถึงความเป็นมืออาชีพ และ เกิดความประทับใจ ใช้บริการหรือเป็นลูกค้าประจำ แนะนำบอกต่อคนอื่นๆ ด้วยความรู้สึกว่า ท่านเป็นผู้ที่ไว้วางใจได้ มีวินัย และ ตรงต่อเวลา อันจะทำให้ธุรกิจของท่านเติบโตต่อๆไปอย่างยั่งยืน