วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

การหาวิทยากรเพื่อการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพ

ข้อแนะนำในการหาวิทยากร


โดย มงคล ตันติสุขุมาล

  บริษัท หรือองค์กร หลายแห่งมีความต้องการวิทยากรเพื่อไปให้ความรู้แก่พนักงานของตนเองเป็นประจำทุกๆปี ปีละหลายครั้ง หรือ ต้องการพัฒนาบุคลากรเฉพาะกิจเป็นครั้งๆไป ซึ่งปัญหาในการจัดหาวิทยากรที่เหมาะสมก็เป็นเรื่องน่าสนใจ และอาจเป็นปัญหาของฝ่ายฝึกอบรมหรือฝ่ายบุคคลอยู่มาก จึงอยากให้คำแนะนำผู้เกี่ยวข้อง ดังนี้

   1. วิทยากรมีหลายประเภท การหาวิทยากรที่เหมาะสมนั้น วิทยากรควรมีความรู้ในเรื่องที่จะให้ไปบรรยาย หรือ มีประสบการณ์ในเรื่องนั้นๆ ซึ่งท่านสามารถดูได้จากวุฒิการศึกษา และ ประสบการณ์การทำงาน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องรู้ลึกซึ้งหรือมีประสบการณ์ตรงเฉพาะทางนานนับสิบปีขึ้นไปนะครับ ต้องขึ้นอยู่กับผู้รับการอบรมด้วยว่า ต้องการให้ความรู้ระดับพื้นฐาน ระดับกลาง หรือระดับสูง เนื่องจากหากต้องการให้ความรู้เพียงระดับพื้นฐานแก่ผู้เข้าอบรม ก็ไม่จำเป็นที่ต้องใช้วิทยากรถึงกับระดับสูง เปรียบเสมือนไม่ต้องใช้ศาสตราจารย์นายแพทย์ไปสอนสุขศึกษาให้เด็กมัธยม เพราะหลายกรณีนอกจากผู้รับการฝึกอบรมจะฟังไม่รู้เรื่องแล้ว ค่าวิทยากรก็ยังแพงมากอีกต่างหาก เอาแต่พอเหมาะพอสมครับ

   2. ความสามารถในการสอน หรือการถ่ายทอด เป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่า เพราะในการฝึกอบรมส่วนใหญ่มักเป็นความรู้ระดับพื้นฐาน หรือระดับกลาง อีกทั้งผู้รับการฝึกอบรมก็มาจากหลากหลายองค์กร หลายแผนก หลายระดับการศึกษา อีกทั้งเรียนต่างคณะกันมา การมารับการฝึกอบรมช่วงสั้นเพียง 1-3 วันนั้น คงไม่สามารถให้ความรู้เชิงลึกแก่บุคคลทุกระดับได้ในเวลาอันสั้น ดังนั้น ความสามารถในการถ่ายทอดของวิทยากร เพื่อให้คนทั้งหมดหรือส่วนใหญ่เข้าใจประเด็นสำคัญที่ต้องการอบรม เป็นสิ่งสำคัญกว่า วิทยากรที่มีประสบการณ์ในการสอนมานานจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะสามารถสอนให้ผู้เรียนเข้าในเรื่องต่างๆได้ดีกว่า วิทยากรมือใหม่ แต่ทว่าท่านก็อาจดูจากผลการประเมินวิทยากรจากการฝึกอบรมอื่นๆที่ผ่านๆมาประกอบได้

  3. ประสบการณ์ในการทำงานและการสอน หากวิทยากรเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเพียงอย่างเดียว ยังไม่เคยประกอบธุรกิจ การเชิญไปบรรยายในเรื่องธุรกิจก็อาจได้ทฤษฎี และตัวอย่างตามตำรา มากว่าประสบการณ์ในการทำงานภาคเอกชนและภาคปฏิบัติ ดังนั้น หากเป็นเรื่องที่ต้องการประสบการณ์การทำงานมาถ่ายทอด วิทยากรที่มาจากผู้ที่ทำงานภาคเอกชนหรือภาคปฏิบัติมาก่อนจะมีความน่าสนใจกว่า แต่ผู้อยู่ในธุรกิจเอกชนบางรายอาจสอนไม่เก่งเพราะไม่เคยสอน จึงต้องดูความเหมาะสมเป็นกรณีไป  คือควรดูประสบการณ์ในการสอนด้วย

  4.  การติดต่อวิทยากร หากท่านค้นจากชื่อนามสกุลแล้วพบเบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมลล์ติดต่อโดยตรงได้ย่อมจะเป็นการดีเพราะสามารถสอบถามรายละเอียดและอธิบายความต้องการให้กับวิทยากรรับทราบโดยตรง เว้นแต่หาไม่ได้หรือวิทยากรมีสังกัดก็ต้องติดต่อผ่านบริษัทรับจัดฝึกอบรม วิทยากรหลายคนอาจมีงานประจำหรือมีคิวบรรยายแน่น จึงควรมีการติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือน ยกเว้นกรณีเร่งด่วนแต่ก็ไม่ควรน้อยกว่า 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากต้องมีเวลาให้วิทยากรจัดคิวงาน เตรียมตัว และเตรียมเนื้อหาที่จะบรรยายด้วย

  5.  การเดินทางในประเทศไทย ปัจจุบันค่อนข้างสะดวก มีสายการบินโลว์คอสมากมาย จึงไม่ต้องกังวลว่าวิทยากรต้องมาจากในจังหวัดเดียวกันหรืออยู่ใกล้สถานที่ฝึกอบรมเท่านั้น ขอเพียงแจ้งล่วงหน้าวิทยากรที่เป็นมืออาชีพจะไปถึงที่ตามนัดหมายได้เสมอครับ และค่าใช้จ่ายในการเดินทางก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่สุด  ผมเดินทางบรรยายในกรุงเทพฯและที่อื่นๆทั่วประเทศไทยเป็นประจำยืนยันได้ว่าอยู่ใกล้หรือไกลไม่ใช่ประเด็นหลักครับ

  6. ค่าบริการของวิทยากร มักขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างผู้จัด กับตัววิทยากรหรือกับบริษัทฝึกอบรม ซึ่งมักอยู่ในหลักหลายหมื่นบาทต่อวัน บางรายอาจคิดรวมค่าเดินทางและที่พักแบบเหมาจ่าย บางรายอาจคิดแยกกัน แต่ท่านผู้จัดอย่าคิดว่าแพงนะครับ เพราะการสอน 1 วัน ปกติวิทยากรต้องเตรียมค้นคว้าหาข้อมูล เรียบเรียง ล่วงหน้าหลายวัน ยิ่งหากเป็นหัวเรื่องใหม่บางเรื่องผมเคยใช้เวลาเตรียมตัวกว่า 1 เดือนเลยทีเดียว เพราะต้องหาตำราหลายเล่มเกี่ยวกับเรื่องนั้นมาอ่านทุกเล่มให้จบ สรุปประเด็นสำคัญและกิจกรรมสำหรับสอนให้ได้ใน 6 ชั่วโมง แล้วหาวิธีการถ่ายทอดให้คนฟังรู้เรื่องอย่างมีอรรถรส ซึ่งเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อนมาก แม้เป็นเรื่องที่เคยสอนหรือเคยมีประสบการณ์มาแล้ว ค่าประสบการณ์นับสิบปีก็มีมูลค่า และคุ้มค่าแน่นอน อีกทั้งวิทยากรหลายท่านยังบอกเคล็ดลับในเรื่องต่างๆที่สอนอย่างไม่ปิดบังอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นความรู้กึ่งสำเร็จรูป นำไปปรับใช้ได้เลย ดังนั้น อย่าเน้นของถูกครับ ให้เน้นของดี

  7. อย่าคิดว่าวิทยากรที่โด่งดังมีชื่อเสียงมากๆ จะต้องดีเสมอไป มีลูกค้าหลายรายเคยเล่าให้ผมฟังว่าเคยเชิญวิทยากรที่มีชื่อเสียงมากๆ กลับเจอปัญหาวิทยากรมาสายเพราะคิวปรากฎตัวเยอะ สอนสั้นๆรีบจบเพราะต้องรีบไปงานอื่นต่อ หนำซ้ำยังพูดเหมือนเดิมๆที่เคยฟังในทีวีมาแล้ว ไม่ตรงกับเรื่องที่ต้องการให้มาสอน ไม่ได้เตรียมเนื้อหาที่เหมาะสมกับหัวข้อหรือผู้รับการฝึกอบรมเลย ทำให้เสียเงินค่าตัวจำนวนมากเกือบแสนบาทต่อครึ่งวันแต่ได้ไม่คุ้มเสีย  แบบนี้คงต้องคิดว่าจ้างดารามาปรากฎตัวก็แล้วกัน

  8. อย่าคิดว่าต้องมีกิจกรรมเยอะๆ ให้ผู้เข้าอบรมได้เล่นเกมส์เยอะๆจึงจะเป็นการอบรมที่ดี ผมบอกได้เลยว่าหากผู้จัดต้องการให้ผู้รับการอบรมได้เล่นเกมส์เยอะๆ วิทยากรจะทำงานสบายมาก เพราะไม่ต้องเตรียมเนื้อหาเยอะซึ่งเป็นส่วนที่บ่งบอกความรู้ที่ผู้รับการอบรมจะได้รับ ผมเคยพบว่าการอบรมบางที่ซึ่งผู้รับการอบรมทำแต่กิจกรรมและเล่นเกมส์ทั้งวัน หัวเราะสนุกสนาน แต่พอกลับไปทำงานไม่มีความรู้ใหม่ ไม่มีทัศนคติใหม่ที่นำไปใช้ในการทำงานให้ดีขึ้นได้เลย แล้วผู้บริหารจะบ่นว่า อบรมเยอะแยะ ไม่เห็นได้อะไร ทั้งความรู้ ทั้งทัศนคติของพนักงานเหมือนเดิม ก็จะไม่ให้เหมือนเดิมได้อย่างไร ในเมื่อผู้จัดฝึกอบรมคิดแต่อยากจะให้วิทยากรเล่นเกมส์อย่างเดียวจะได้สนุก ผลการประเมินจะได้ออกมาว่าอบรมแล้วสนุก ซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน แต่ก็อย่าเข้าใจสุดโต่งไปอีกทางว่างั้นก็สอนแต่วิชาการล้วนๆเหมือนในห้องเรียนมหาวิทยาลัยดีไหม นั่นก็ไม่ใช่วิธีการอบรมที่ดี การอบรมที่ดีควรมีส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างเนื้อหาวิชาการและกิจกรรมหรือเกมส์ที่สอดคล้องกับเนื้อหาที่ต้องการให้ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาดียิ่งขึ้น เช่น เนื้อหา 50% กิจกรรมที่สอดคล้องกับเนื้อหา 50% เป็นต้น ไม่ใช่เกมส์อะไรก็ได้เล่นถ่วงเวลาไปเรื่อยเปื่อยซึ่งวิทยากรไม่ต้องมีความรู้วิชาการหรือประสบการณ์ก็มาจัดได้ จ้างนักกิจกรรมสันทนาการมาทำก็ได้ แต่ทว่ามีการอบรมบางประเภทที่เน้น Activity Base Learning คือให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เองจากกิจกรรมโดยไม่มีการสอนทฤษฎีใดๆ ซึ่งหากต้องการอบรมด้วยวิธีนี้ การออกแบบกิจกรรมให้ได้เรียนรู้จะต้องใช้เวลาอบรมหลายวัน บางหลักสูตรอาจต้องใช้เวลาจากปกติ 2 วัน เป็น 5 วัน และต้องจ้างทีมสันทนาการอีกเป็นขโยง แทนที่จะจ้างเพียงวิทยากรคนเดียว ดังนั้น เรื่องนี้ จึงขึ้นกับวัตถุประสงค์ จำนวนวันที่มี และ งบประมาณที่มีครับ

    สรุปแล้ว การหาวิทยากรในหลักสูตรที่เหมาะสม คือ วิทยากรมีความรู้ มีประสบการณ์ เหมาะสมกับผู้รับการฝึกอบรม โดยดูจากการศึกษา การทำงาน แต่ที่สำคัญคือความสามารถในการสอนการถ่ายทอดความรู้ ในราคาที่เหมาะสมเชิงเปรียบเทียบ ส่วนการสอนก็มีทั้งวิชาการ ประสบการณ์และกิจกรรมที่สอดคล้องกับเรื่องที่อบรม ที่สำคัญคือ รับผิดชอบต่องาน มีการเตรียมตัว มาตรงเวลา และ ตั้งใจทำงานครับ




 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น