วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2566

ที่ปรึกษาธุรกิจที่ดี

 ที่ปรึกษาธุรกิจที่ดี


การประกอบธุรกิจ ส่วนใหญ่แล้วเจ้าของไม่สามารถที่จะมีความรู้ทุกเรื่องของกิจกรรมทางธุรกิจ หรือ รู้แต่ก็ไม่มีเวลามากพอที่จะใส่ใจในทุกกิจกรรมได้ จึงจำเป็นต้องมี “ที่ปรึกษา” ที่มีความรู้และประสบการณ์ในเรื่องที่เจ้าของอาจไม่รู้หรือไม่มีเวลาดูแล จากประสบการณ์ในการเป็นที่ปรึกษาธุรกิจของผม พบว่าที่ปรึกษาที่ดี ควรเป็นแบบนี้นะ

มีความรู้ในเรื่องที่ให้คำปรึกษา เรื่องนี้เป็นสามัญสำนึกอยู่แล้วเป็นปกติ ที่ปรึกษา จำเป็นต้องรู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นอย่างดีหรือลึกซึ้งกว่าคนทั่วไป หรืออาจต้องรู้ลึกซึ้งกว่าเจ้าของธุรกิจด้วยซ้ำไป เพียงแต่ที่ปรึกษาอาจไม่เก่งในธุรกิจเฉพาะโดยรวม ไม่มีความกล้าเสี่ยงเท่าผู้ประกอบการ ไม่มีความรู้เฉพาะทางด้านธุรกิจนั้น หรือ ไม่มีคอนเนกชั่นทางธุรกิจเฉพาะ ซึ่งเป็นจุดแตกต่างจากนักธุรกิจที่ตนให้คำปรึกษา แต่ความรู้เฉพาะเรื่องที่จะให้คำปรึกษานั้นจำเป็นต้องมี เช่น บัญชี การเงิน เทคนิคการผลิต วิศวกรรมเฉพาะทาง การตลาด กฎหมาย เป็นต้น ถ้าไม่รู้เรื่องใด อย่าไปให้คำปรึกษาในเรื่องนั้น เพราะจะเกิดผลเสียหายมากกว่าประโยชน์

.

มีประสบการณ์ในเรื่องที่ให้คำปรึกษา การมีประสบการณ์เฉพาะในเรื่องที่ตนเองให้คำปรึกษา เช่น ที่ปรึกษาด้านการตลาดการขาย ก็ควรเป็นคนที่ขายของเป็นและเคยขายของ ที่ปรึกษาด้านการทำแผนธุรกิจ ก็ควรเคยเป็นผู้บริหารธุรกิจหรือประกอบธุรกิจเอง ที่ปรึกษาด้านกฎหมายก็ควรเป็นทนายความรับอนุญาต เป็นต้น จึงจะทำให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งพอในเรื่องที่ให้คำปรึกษา สิ่งนี้จำเป็นสำหรับธุรกิจเพราะหากได้ที่ปรึกษาที่ไม่รู้ลึกซึ้งพอ คำแนะนำก็จะเป็นแบบกว้างๆ หรือ มั่วๆ ไม่เกิดประโยชน์อันใด แถมจะเกิดผลเสียต่อธุรกิจที่รับคำปรึกษาด้วยซ้ำไป

.

ทำงานโดยอิงกับข้อมูลที่วิเคราะห์แล้ว ไม่ใช่ความเห็นส่วนตัวเท่านั้น เพราะหลายคนอาจพูดเก่งเห็นข้อมูลเพียงเล็กน้อยฉาบฉวยก็เสนอให้ผู้ประกอบการทำโน่นนี่นั้นให้มั่วไปหมด โดยไม่สอบถามก่อนว่ามีข้อมูลเชิงลึกอะไรอีกบ้าง มีงบประมาณเท่าไหร่ ผู้ประกอบการเคยทำอะไรเพื่อแก้ปัญหาที่สอบถามไปแล้วบ้าง ที่ทำไปได้ผลหรือไม่ได้ผลอย่างไร ฯลฯ การตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกให้แน่ใจ ก่อนให้คำปรึกษานั้นจำเป็นมาก เพราะหลายครั้งพบว่าข้อมูลที่ผู้ประกอบการบันทึกไว้นั้นไม่ถูกต้อง หรือ ใช้หลักการที่ไม่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น ผมเคยพบผู้ประกอบการที่กำหนดเป้าหมายยอดขายไม่เหมาะสมกับประเภทของธุรกิจ ทำให้ทีมงานไม่เคยทำได้ตามเป้าหมายเลยตลอดหลายปีตั้งแต่ตั้งเป้าหมายมา พนักงานขายจึงไม่มีแรงจูงใจในการทำยอดให้บรรลุเป้ายอดขาย เป็นต้น

.

ไม่อวยเช้าอวยเย็น มีหลายกรณีที่ผู้ประกอบการจ้างที่ปรึกษาด้วยเงินของกิจการเองเพราะว่าผู้ประกอบการแก้ปัญหาเองมานานแล้วแต่ไม่สำเร็จ แต่ต้องไม่ลืมว่าอยากได้คำปรึกษาที่จริงใจ เจ้าของกิจการก็ต้องยอมรับ “คำติ” มากว่า รอรับ “คำชม” เช่น คิดว่ายอดขายไม่เข้าเป้า เพราะพนักงานขายไม่เก่ง หรือ ขี้เกียจ จึงต้องการให้ที่ปรึกษาเข้ามาช่วยทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น หากที่ปรึกษาที่มักประจบประแจงก็อาจเอ่ยชมเจ้าของว่าทำธุรกิจเก่ง มีวิสัยทัศน์ ยอดเยี่ยม ทั้งหมดเป็นความผิดของทีมงานขายเท่านั้น เดี๋ยวจัดการให้ แต่แท้จริงแล้วอาจเกิดจากเจ้าของกิจการวางแผนการตลาดผิดกลุ่มทำให้สินค้าขายยาก ติดตามงานไม่เหมาะสมเช่นเรียกเซลล์มากดดันยอดขายเป็นหลัก หรือ คัดเลือกทีมขายที่ไม่ใช่คนที่เหมาะสมตั้งแต่ตอนรับคนเข้าทำงานแล้ว ไม่วางแผนพัฒนาบุคลากร ไม่วางแผนความก้าวหน้าในอาชีพให้พนักงานคนเก่งจึงลาออกเยอะ เป็นต้น พอที่ปรึกษาคนใดที่กล้าพูดตำหนิตัวเจ้าของกิจการ เจ้าของหรือผู้บริหารก็มักจะไม่พอใจอย่างแรง แถมไม่ต่อสัญญาจ้างที่ปรึกษา ปัญหาจึงไม่ถูกแก้ไข เพราะคนส่วนใหญ่มักไม่ยอมรับความผิดพลาดของตนเอง ทำนอง ชมได้ ชอบฟังคำอวย แต่ห้ามติ ปัญหานี้ผมเจอมามากที่สุด เพราะเจ้าของกิจการหลายคนมักคิดว่าตนเองเก่งที่สุด ที่ทำธุรกิจมาได้จนถึงจุดนี้ ใครมันจะไปรู้ดีไปกว่าฉันว่าธุรกิจของฉันมีจุดบกพร่องตรงไหน ผิดพลาดที่ใคร แต่ที่แน่ ๆ ไม่ใช่ “ฉัน” เป็นสาเหตุอย่างแน่นอน พอเป็นแบบนี้ ต่อให้คุณได้ที่ปรึกษาระดับเทพ ก็ไม่สามารถช่วยได้ แล้วเจ้าของก็มักจะโทษที่ปรึกษาว่าไม่เก่งแก้ปัญหาให้ไม่ได้ ทั้งที่หลายกรณีที่ปรึกษาพยายามแก้ที่ต้นเหตุแล้ว แต่ตัวต้นเหตุไม่ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของตนเอง  ผมอยากจะบอกว่า ที่ปรึกษาที่จริงใจ เขาจะพูดตรงเป้า กล้าตำหนิ หากเจ้าของกิจการรับได้ และพร้อมปรับปรุงแก้ไข ธุรกิจก็จะไปโลด แต่ถ้าท่านเจอที่ปรึกษาที่อวยผู้ประกอบการตลอดเวลา ไม่กล้าพูดตรงจุด ผู้ประกอบการจะเสียหายมากกว่าได้ประโยชน์ ท่านผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการโปรดพึงระมัดระวังคนที่เข้ามาตีสนิทแล้วอวยโอเวอร์อยู่เรื่อย ทั้งที่ยังไม่รู้จักท่านดีพอด้วยซ้ำ เพราะ การประจบประแจง ย่อมหวังผลประโยชน์บางอย่างแอบแฝงอยู่เสมอ คนจริงใจเท่านั้นที่จะกล้าพูดตรงไปตรงมา ปัญหาจะได้ถูกแก้อย่างตรงจุด ถ้าอยากแก้ปัญหาให้ได้ผล จงมองหาที่ปรึกษาที่จริงใจ และ ทนเขาให้ได้ด้วย จำไว้ว่า การผ่าตัดปัญหาธุรกิจย่อมเจ็บปวดเสมอ นะท่านนะ

.

วศ.ทค.มงคล ตันติสุขุมาล 

วิทยากร / นักเขียน / ที่ปรึกษาธุรกิจ / ทนายความ

โทร 0817168711


วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

หลักสูตรอบรม กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) หลักกฎหมายและแนวปฏิบัติ

พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)
หลักกฎหมายและแนวปฏิบัติ
 (Personal Data Protection Act)

โดย  วศ.ทค.มงคล  ตันติสุขุมาล


พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2565 ได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นมา หลายองค์กรมีผู้เกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมาก มีบุคลากรจำนวนมากที่ต้องเรียนรู้กฎหมายดังกล่าว เพื่อเตรียมระบบภายในองค์กรทางโครงสร้างองค์กร ทางกายภาพ ทางเอกสาร และ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ให้ปฏิบัติได้สอดคล้องกับกฎหมายดังกล่าว หลักสูตรดังกล่าวจึงจัดขึ้นเพื่อให้ความรู้แก่ผู้บริหาร พนักงาน ผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ และ ผู้สนใจทั่วไป ที่ต้องรับรู้ ต้องประยุกต์ใช้ อันจะทำให้องค์กรสามารถปฏิบัติงานได้อย่างราบรื่นและสอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่อไป


วัตถุประสงค์

1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้รับทราบรายละเอียดเกี่ยวกับ PDPA
2. เพื่อให้รู้ถึงสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย PDPA
3. เพื่อเรียนรู้ถึงการเตรียมตัว และ เอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ PDPA          

 

 หัวข้อการฝึกอบรม/สัมมนา:

1.      พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ..2562 และ กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

2.      ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล และ ผู้เกี่ยวข้องกับกฎหมาย PDPA

3.      ข้อยกเว้นตามกฎหมาย PDPA

4.      การจัดการกับข้อมูล และ สิทธิของเจ้าของข้อมูล ตามกฎหมาย PDPA

5.      โทษจากการละเมิดกฎหมาย PDPA

6.      สิ่งที่องค์กรต้องทำเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกฎหมาย PDPA

7.      ข้อควรระวังไม่ให้เกิดการทำผิดกฎหมาย PDPA

8.      ตัวอย่างเอกสารที่เกี่ยวข้อง


วิทยากร

อ.มงคล
(MBA, BBA.; B.Law, B.Engineer, Cert. English, Web & Ecommerce)
วิทยากรฝึกอบรม ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพบุคคลและธุรกิจ

กำหนดเวลา

เวลา

หัวข้อ

08.30 09.00

ลงทะเบียน

09.00 – 09.20

แนะนำวิทยากร และ ผู้เข้าร่วมฝึกอบรม เพื่อความคุ้นเคยกัน

09.20 – 10.15

- พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 และ กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
- ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล และ ผู้เกี่ยวข้องกับกฎหมาย PDPA

10.15 – 10.30

พักดื่มกาแฟและทานของว่าง

10.30 12.00

- ข้อยกเว้นตามกฎหมาย PDPA
- การจัดการกับข้อมูล และ สิทธิของเจ้าของข้อมูล ตามกฎหมาย PDPA
- โทษจากการละเมิดกฎหมาย PDPA

12.00 13.00

พักรับประทานอาหารกลางวัน

13.00 – 14.30

- สิ่งที่องค์กรต้องทำเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกฎหมาย PDPA
- ข้อควรระวังไม่ให้เกิดการทำผิดกฎหมาย PDPA

14.30 – 14.45

พักดื่มกาแฟ และทานของว่าง

14.45 – 16.15

- ตัวอย่างเอกสารที่เกี่ยวข้อง

16.15 – 16.30

ถ่ายภาพร่วมกัน

หมายเหตกำหนดเวลาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เพื่อประโยชน์ของผู้เข้าร่วมฝึกอบรม

[ Download Course Outline PDPA ]

วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

วิทยากร เรื่อง ศิลปะการเจรจาต่อรองและเทคนิคการขาย (Negotiaion Strategies & Selling Techniques)

 วิทยากร เรื่อง 

ศิลปะการเจรจาต่อรองและเทคนิคการขาย

(Negotiaion Strategies & Selling Techniques)

ทีมงาน ศูนย์นวัตกรรมอาหารและบรรจุภัณฑ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ที่ Flora Creek Chiangmai วันพุธที่ 4 พ.ค.2565

โดย วศ.ทค.มงคล ตันติสุขุมาล โทร 0817168711












วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2564

วิทยากรมงคล

 เป็นวิทยากรมาน๊านนน...นาน จริงๆ นะ จะบอกให้

สอนมากว่า 100 องค์กร ผู้ผ่านการอบรมกว่า 10,000 คน

ประสบการณ์กว่า 20 ปี เป็นประกัน

ติดต่อ LineOA= @zru5884r

#วิทยากรมงคล #วิทยากรการเจรจาต่อรอง #วิทยากรการตลาด #วิทยากรการขาย #วิทยากรการเขียนแผนธุรกิจ #วิทยากรการทำงานเป็นทีม #วิทยากรการจัดการความขัดแย้ง #วิทยากรศิลปะการพูดในที่ชุมชน #วิทยากรPDPA #วิทยากรกฎหมาย






วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2564

วิทยากรอบรมผ่าน Zoom เรื่อง เจรจาต่อรองอย่างมีกลยุทธ์ (Winning Negotiation Strategies)

 วิทยากร อบรมผ่าน Zoom Meeting เรื่อง

เจรจาต่อรองอย่างมีกลยุทธ์ (Winning Negotiation Strategies)

จัดโดย สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ วันอังคารที่ 8 มิ.ย.2564

วิทยากรโดย วศ.ทค.มงคล ตันติสุขุมาล โทร 0817168711



วันพุธที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2564

วิทยากร เรื่อง เจรจาต่อรองอย่างมีกลยุทธ์ (Winning Negotiation Strategies)

วิทยากร เรื่อง 

เจรจาต่อรองอย่างมีกลยุทธ์ 
(Winning Negotiation Strategies) 

ปีที่ 9 รุ่นที่ 3

โดย วศ.ทค.มงคล ตันติสุขุมาล
โทร 0817168711

จัดโดย สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ที่ โรงแรม เจ้าพระยาปาร์ค กรุงเทพฯ
วันอังคารที่ 15 ธันวาคม 2563




วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2563

วิทยากร เจรจาต่อรองอย่างมีกลยุทธ์ Winning Negotiation Strategies (ปีที่ 9 รุ่นที่ 2)

 วิทยากร 

เจรจาต่อรองอย่างมีกลยุทธ์
(Winning Negotiation Strategies)

จัดโดย สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ (Thailand Productivity Institute)

วันอังคาร ที่ 29 กันยายน 2563 
โรงแรมรามาดา บาย วินแดม แบงคอก เจ้าพระยาปาร์ค กรุงเทพฯ

วิทยากร อ.มงคล ตันติสุขุมาล โทร 0817168711





วิทยากร เจรจาต่อรองอย่างมีกลยุทธ์ Winning Negotiation Strategies (ปีที่ 9 รุ่นที่ 1)

วิทยากร 

เจรจาต่อรองอย่างมีกลยุทธ์
(Winning Negotiation Strategies)

จัดโดย สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ (Thailand Productivity Institute)

วันพฤหัสฯ ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563
โรงแรม แกรนด์ สุขุมวิท กรุงเทพฯ

วิทยากร อ.มงคล ตันติสุขุมาล








วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2563

หัวข้อฝึกอบรม โดย อ.มงคล

หัวข้อฝึกอบรม 

โดย วศ.ทค.มงคล ตันติสุขุมาล

(MBA., BBA., B.Law, B.Eng., Cert.English, Web and Ecommerce)

(วิทยากร / ทนายความ)

เพิ่มเพื่อน



หลักสูตรด้านธุรกิจ และ ด้านการพัฒนาตนเอง
  • การเจรจาต่อรองทางธุรกิจ  (Business Negotiation)
  • กลยุทธ์การตลาดยุคใหม่ (Modern Marketing Strategies)
  • ศิลปะการพูดในที่ชุมชน  (The Art of Public Speaking)
  • การพูดเพื่อจูงใจสำหรับผู้นำ (Convincing Techniques for Leadership)
  • ศิลปะการขาย (Art of Selling)
  • ปลุกพลังการขาย (Motivation for Sales)
  • การทำงานเป็นทีม (Teamwork)
  • การจัดการความขัดแย้ง (Conflict Management)
  • การจัดทำแผนธุรกิจ (Effective Business Plan)
  • การจัดทำแผนการตลาด (Marketing Plan)
  • ศิลปะการบริการ (Art of Service)
  • การพัฒนาทัศคติทางบวก (Positive Thinking)
  • ก้าวแรกสู่การเป็นวิทยากรมืออาชีพ (Startup to be the Super Trainer)
  • เทคนิคการนำเสนอ (Presentation Techniques)
  • การบริหารเวลาและจัดลำดับความสำคัญของงาน (Time Management and Priority Setting)
  • ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับธุรกิจ (Introduction to Business)
  • พื้นฐานธุรกิจ SMEs อยากรวยต้องรู้ (Introduction to SMEs Business)
  • บุคลิกภาพที่ดีสู่การบริการที่น่าประทับใจ (Good Personality and Services)
  • ศิลปะการทำงานและการใช้ชีวิตให้มีความสุข (Happy Life)
  • พัฒนาศักยภาพ ปลุกพลังสู่จุดสูงสุดด้วยการสั่งจิต NLP (Develop Maximum Potential with NLP :Neuro Linguistic Programming)
  • ศิลปะการเขียนและการตอบคำถามในสื่อออนไลน์ (Art of Online Medias Writing and Answer)
หลักสูตรด้านกฎหมาย
  • กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Act: PDPA)
  • กฎหมายคอมพิวเตอร์ และ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Computer and Electronic Commerce Acts)
  • กฎหมายดิจิทัล ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และ ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (Digital, Electronic Transaction and Computer-Related Crime Act)
  • กฎหมายลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร และ ทรัพย์สินทางปัญญา (Copy Right, Patent and Intellectual Property Law)
  • ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมาย (Introduction to Law)
  • กฎหมายธุรกิจ (Business Law)
รับเป็น วิทยากรกรุงเทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต และ ทั่วประเทศ เพื่อร่วมพัฒนาบุคลากรโดยให้บริการทั้งแบบ In-house Training และ Public Training ติดต่อ LineOA= @zru5884r

วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2563

หลักสูตร การบริหารเวลา และ จัดลำดับความสำคัญของงาน (Time Management and Priority Setting)

การบริหารเวลา และ จัดลำดับความสำคัญของงาน
(
Time Management and Priority Setting)

โดย  .มงคล  ตันติสุขุมาล

          เวลาเป็นสิ่งเดียวที่ธรรมชาติมีให้แก่ทุกชีวิตเท่ากัน แต่คนเราใช้เวลาให้มีประสิทธิภาพได้ไม่เท่ากัน ตั้งแต่การเรียนบางคนเรียนได้คะแนนดีกว่าคนอื่นทั้งๆที่สติปัญญาพอๆกัน  บางคนสามารถทำงานต่างๆได้สำเร็จมากมายภายใต้เวลาอันจำกัด เมื่อเวลาผ่านไปจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ทัศนคติที่มีต่อเรื่องการใช้เวลา การไม่รู้จักจัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมต่างๆในชีวิต อุปนิสัยที่เคยชินหลายประการที่ทำให้สูญเสียเวลาโดยไม่จำเป็น รวมๆกันเหล่านี้เรียกได้ว่า การบริหารเวลาที่ไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ได้ผลงานน้อย หรือ ทำได้แต่กิจกรรมที่ไม่สำคัญแต่เคยชิน งานสำคัญกลับทำไม่สำเร็จผล เป็นต้น ส่วนผู้ที่บริหารเวลาเป็น ก็สามารถใช้เวลาทั้งในชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวสร้างผลงานมากมายจนประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องการศึกษา ในชีวิตการทำงานและ ในชีวิตส่วนตัว
          หลักสูตรนี้จึงจัดทำขึ้นเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องการบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการจัดลำดับความสำคัญของงาน เพื่อให้ผู้รับการอบรมเข้าใจ มีการปรับปรุงทักษะการบริหารจัดการเวลาและการงานของตนเพื่อประโยชน์แก่ตนและองค์กรต่อไป
           
วัตถุประสงค์
1.      เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ตระหนักถึงความสำคัญของเวลาอย่างแท้จริง
2.      เพื่อให้เข้าใจหลักการและวิธีการบริหารเวลาและจัดลำดับความสำคัญของงาน
3.      เพื่อให้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองในการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด

หัวข้อการฝึกอบรม/สัมมนา:
1.      ความสำคัญของเวลา
2.      เป้าหมายในการบริหารเวลา
3.      กิจกรรมที่ทำให้เสียเวลาอันมีค่า
4.      การวางเป้าหมายชีวิตและการงานที่ส่งผลต่อการใช้เวลา
5.      การกำหนดเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ของงานให้ชัดเจน
6.      วิธีการบริหารเวลา
7.      การขจัดอุปนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง
8.      การจัดลำดับความสำคัญของงาน
9.      การวางแผนและจัดทำตารางเวลารายปี รายเดือน รายวัน ของตนเอง
10.  เทคนิคการบริหารเวลา ในการโทรศัพท์ การประชุม การเดินทาง การอ่านเอกสาร การจัดเก็บสิ่งของ ฯลฯ

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2563

หลักสูตร การจัดการความขัดแย้ง (Conflict Management)

การจัดการความขัดแย้ง
(
Conflict Management)

โดย  อ.มงคล  ตันติสุขุมาล

 

          มนุษย์เป็นสัตว์สังคม การทำงานร่วมกัน การอยู่ร่วมกัน เป็นสิ่งที่จะก่อให้เกิดผลงานสูงกว่าการทำงานเพียงลำพังแบบทวีคูณ แต่ทุกคนมีพื้นฐานความรู้ ความคิด และ ประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ย่อมนำมาซึ่งความขัดแย้งกันได้เมื่อต้องอยู่ หรือ ทำงานร่วมกัน การลดความขัดแย้ง การบริหารจัดการความขัดแย้งอย่างถูกต้องเหมาะสมจึงเป็นหัวใจของการอยู่หรือทำงานร่วมกันอย่างความราบรื่น และ ส่งผลให้งานสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

หลักสูตรนี้ จึงได้ออกแบบขึ้นเพื่อช่วยพัฒนาให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีทัศนคติที่ถูกต้องในการทำงานและอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างราบรื่น สามารถพัฒนาทักษะในการจัดการกับความขัดแย้งอย่างเหมาะสม ลดความขัดแย้งในการทำงาน เพื่อสร้างความมั่นใจในตนเองแก่หัวหน้างาน ผู้ร่วมทีมงาน ผู้ที่ต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น เพื่อให้ประสบความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและในชีวิตต่อไป

 

วัตถุประสงค์

1.      เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ทราบหลักการของการอยู่และทำงานร่วมกับผู้อื่น

2.      เพื่อฝึกฝนทักษะการจัดการความขัดแย้งอย่างเหมาะสม

3.      เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้เข้ารับการอบรมในการ จัดการความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ และนำไปใช้ในการปฏิบัติงานจริงอย่างได้ผลดี

 

หัวข้อการฝึกอบรม/สัมมนา:

     1. ความหมายของความขัดแย้ง
2. ประเภทของความขัดแย้ง
3. สาเหตุของความขัดแย้ง
4. การจัดการกับความขัดแย้ง
5. วิธีการประชุมที่มีประสิทธิภาพในการลดความขัดแย้ง
6. การสื่อสารที่จะลดความขัดแย้ง
7. ศิลปะการใช้คำพูดที่จะลดความขัดแย้ง
8. การเจรจาต่อรองเพื่อไกล่เกลี่ย
9. การจูงใจคนเพื่อที่จะลดความขัดแย้ง

หลักสูตร การทำงานเป็นทีม (Teamwork)


การทำงานเป็นทีม (Teamwork)

โดย  มงคล  ตันติสุขุมาล

  
          การทำงานเป็นทีม เป็นสิ่งที่จะก่อให้เกิดผลงานสูงกว่าการทำงานเพียงลำพังแบบทวีคูณ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนในทีมจะต้องมีศิลปะของการทำงานเป็นทีม การทำงานจึงจะสอดประสานกันได้อย่างดีและราบรื่น เป็นหัวใจของการทำให้การทำงานเป็นทีมมีความราบรื่น และ ส่งผลให้งานสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
บางคนทำงานคนเดียวเก่ง แต่ไม่สามารถทำงานเป็นทีมร่วมกับผู้อื่นได้ เมื่อต้องร่วมงานกับผู้อื่นก็ไม่รู้ว่าควรจะปฏิบัติตนอย่างไร ควรดูแลทีมงานอย่างไร ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆมากมายแก่ผู้อื่น โดยที่ตนเองก็อาจไม่รู้ข้อจำกัดนี้ของตนเอง ทำให้การทางานร่วมกับผู้อื่นไม่ราบรื่น บางทีมงานมักมีปัญหาขัดแย้งกันเองอยู่เสมอ ไม่รู้หลักการทำงานร่วมกัน ส่งผลให้การงานติดขัดไม่บรรลุผลไม่มีความก้าวหน้าการการทำงาน
หลักสูตรนี้จึงได้ออกแบบขึ้นเพื่อช่วยพัฒนาให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถพัฒนาทักษะในการทำงานเป็นทีมให้ดีขึ้น เรียนรู้หลักการทำงานให้ประสบผลสำเร็จ ทัศนคติที่ถูกต้องในการทำงาน การสร้างทีม การจูงใจทีมงาน การทำงานเป็นทีม เพื่อสร้างความมั่นใจในตนเองแก่หัวหน้างาน ผู้ร่วมทีมงาน ผู้ที่ต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น เพื่อให้ประสบความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและในชีวิตต่อไป

วัตถุประสงค์
1.      เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ทราบหลักการของการทำงานเป็นทีมที่ดี
2.      เพื่อฝึกฝนทักษะการทำงานเป็นทีมให้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรม
3.      เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้เข้ารับการอบรมในการทำงานเป็นทีม และนำไปใช้ในการปฏิบัติงานจริงอย่างได้ผลดี จนบรรลุเป้าหมายของทีมงาน

หัวข้อการฝึกอบรม/สัมมนา:
1.      การทำงานเป็นทีม กับการทำงานตามลำพัง
2.      กลุ่มกับทีมต่างกันอย่างไร
3.      ทัศนคติที่ถูกต้องในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
4.      ความสำคัญของการสื่อสารภายในทีม
5.      การสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพ การคัดเลือกคนเข้าทีม
6.      หลักการประชุมระดมสมองของทีมงาน
7.      การจูงใจทีมงาน
8.      อุปสรรคในการทำงานเป็นทีมจากผู้นำทีม
9.      อุปสรรคในการทำงานเป็นทีมจากสมาชิกในทีม
10.  การทำให้ทีมประสบความสำเร็จ

หลักสูตร ศิลปะการพูดในที่ชุมชน (Public Speaking)

ศิลปะการพูดในที่ชุมชน

(The Art of Public Speaking)

โดย  อ.มงคล  ตันติสุขุมาล



          การพูดเป็นความสามารถพื้นฐานของคนทุกคน แต่คนส่วนใหญ่กับมีปัญหาในการพูดต่อหน้าชุมชน หรือการพูดในที่สาธารณะ หลายคนเกิดความประหม่า จัดลำดับหัวข้อเรื่องที่จะพูดไม่เป็น พูดได้ไม่น่าสนใจ หรือแม้แต่ลืมเรื่องที่ได้เตรียมจะพูด ทำให้สูญเสียความมั่นใจ  และสูญเสียโอกาสที่ดีไปทั้งๆที่จะเป็นโอกาสที่ได้แสดงความสามารถ แสดงความคิดความหลักแหลมต่อหน้าผู้อื่น 
หลักสูตรศิลปะการพูดต่อหน้าชุมชน จึงได้ออกแบบขึ้นเพื่อช่วยพัฒนาให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถพัฒนาทักษะในการพูดต่อหน้าชุมชนให้ดีขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจในตนเอง และประสบความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและในชีวิตต่อไป

วัตถุประสงค์
1.      เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ทราบหลักการของการพูดในที่สาธารณะที่ดี
2.      เพื่อฝึกฝนทักษะการพูดแบบต่างๆให้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรม
3.      เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้เข้ารับการอบรมในการพูดในที่ชุมชน ไปใช้ในการปฏิบัติงานจริงอย่างได้ผลดีเลิศ จนบรรลุเป้าหมายของตนเอง

หัวข้อการฝึกอบรม/สัมมนา:
1.      หลักการพูดพื้นฐาน
2.      การเตรียมตัวในการพูดต่อหน้าชุมชน
3.      การแนะนำตัวเอง
4.      การพูดจากใจจริง
5.      การสร้างโครงเรื่อง
6.      การใช้มือประกอบการพูด
7.      การใช้น้ำเสียงระดับต่างๆ
8.      การพูดที่ได้จัดลำดับหัวข้อ
9.      การอ่านคำปราศรัย
10.  การสร้างภาพพจน์ด้วยคำพูด

วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

7 แนวทาง หาธุรกิจ ยังไงให้ เหมาะ กับตัวคุณ


หลายคนคงตั้งโจทย์ว่า อยากทำธุรกิจส่วนตัว อะไรก็ได้ให้รวย
โดยเริ่มจากดูว่าเขาทำอะไรกันบ้าง แล้วก็อาจจบลงด้วยการทำตามอย่างเขา เช่น

เห็นเขามีธุรกิจร้อยล้าน ก็ทำบ้าง
เห็นเขาเปิดร้านขายกาแฟ อยากขายบ้าง น่าจะชิว ๆ สโลว์ไลฟ์
เห็นเขาทำฟู้ดทรัก (Food Truck) ก็ทำบ้าง ได้เดินทางขับรถเที่ยวไปด้วย
เห็นเขารวยจากการซื้อคอนโดแล้วปล่อยเช่า ก็เอาบ้าง อยากรวยด้วยอสังหาฯ
เห็นเขาสร้างอพาร์ทเม้นให้เช่า ก็สร้างบ้าง อยากเป็นเสือนอนกิน
เห็นเขาเล่นหุ้นรวย ก็เอาบ้าง อยากเป็นนักลงทุนหุ้นพันล้าน

แต่ก็มีส่วนใหญ่ เมื่อทำตาม แต่กลับทำไม่สำเร็จเหมือนเขา หนำซ้ำยังเจ็บตัวหนักจากธุรกิจ เสียเงินเสียเวลาไปมากมาย

เพราะอะไร ทำไมวิธีเริ่มต้นคิดจากแนวนี้อาจไม่ใช่จุดเริ่มต้นที่ถูกต้อง แล้วแนวทางอื่นที่ควรจะเป็นคืออะไร ?